จากผลการวิจัยของศูนย์หัวใจ มหาวิทยาลัยมิชิแกน บลูเบอรี่ อาจช่วยลดไขมันหน้าท้องและปัจจัยความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคเกี่ยว กับการเผาผลาญหลังงาน (โรคอ้วน)
นอกจากบลูเบอรี่จะเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยแล้ว มันยังมีประโยชน์มากอีกด้วย
บลูเบอร์ รี่เป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากที่สุดในบรรดา ผลไม้สด มันมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง Anthocyanin วิตามินซี บี อี เอ คอปเปอร์(มีผลสร้างภูมิคุ้มกันและเป็นแอนติแบคทีเรีย) ซีลีเนียม ซิงค์ ธาตุเหล็ก(สร้างภูมิคุ้มกัยโดยการเพิ่มฮีโมโกลบินและอ๊อกซิเจนในเลือด) ฯลฯ การเพิ่มภูมิคุ้มกันเป็นการป้องกันการเกิดโรคหรือติดโรคได้ดี
บลูเบอร์ รี่ป้องกันโรคและชะลอวัยของคุณได้เพราะเป็นผลไม้ที่มีสารต้าน อนุมูลอิสระที่สูงมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก Anthocyanin ที่ทำให้บลูเบอรี่มีสีฟ้าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้ผลดีมาก และวิตามินซีก็เป็ฯอีกหนึ่งปัจจัยด้วย
ลดหน้าท้องได้: ศูนย์หัวใจ มหาวิทยาลัยมิชิแกน ทดลองให้หนูกินบลูเบอรี่ และหนูหลุ่มนั้นมีสุขภาพที่ดีขึ้น พวกเขาจำเป็นต้องทำการวิจัยเพิ่มเติมกับมนุษย์ก่อนยืนยันผลการทดลองนี้ อย่างไรก็ตาม การวิจัยอื่นมีผลว่าผู้ที่มีปัจจัยความเสี่ยงต่อโรคหัวใจที่ดื่มน้ำบลูเบอร์ รี่ติดต่อกัน 3 สัปดาห์ มีระดับน้ำตาลและอินซูลินที่ดีขึ้น
ระบบขับ ถ่ายปัสสาวะ: แบคทีเรีย บีโคไล ที่ผนังท่อเดินปัสสาวะเป็นต้อนเหตุของการติดเชื้อ ที่มีผลทำให้เกิดอาการอักเสบ และรู้สึกแสบขณะปัสสาวะ บลูเบอรี่มีสารที่ทำให้แบคทีเรียชนิดนี้หยุดการเจริญเติบโต และล้างแบคทีเรียจากทางเดินปัสสาวะ มันยังมีแอนตตี้ไบโอติกที่ช่วยรักษาโรคนี้อีกด้วย
สุขภาพตาและการมอง เห็น: สาร anthocyanosides ช่วยชะลอการสูญเสียการมองเห็น มันช่วยป้องกันหรือชะลอโรคตาที่เกิดจากวัย เช่น ต้อ อาการตาแห้ง การติดเชื้อ ฯลฯ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกัยเรตินา ข้อมูลจาก Archives of Ophthalmology ชี้ว่าการรับประทานบลูเบอรี่ 3 ถ้วยต่อวันอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคตาที่เกิดจากวัย (age-related macular degeneration) ในผู้ใหญ่
สุขภาพสมอง: สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆในบลูเบอรี่สามารถป้องกันและรักษาโรคทางระบบประสาทได้ โดยการป้องกันการเสื่อมสภาพของระบบและบำรุงระบบประสาทกลาง บลูเบอรี่สามารถช่วยโรคอัลไซเมอร์ รักษาเซลล์สมองที่ถูกทำลาย เนื้อเยื่อระบบประสาท และช่วยรักษาความจำในระยะยาว นักวิจัยพบว่าบลูเบอรี่ข่วยการเรียนรู้และการเคลื่อนไหวในสัตว์ที่แก่แล้ว ทำให้พวกมันสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้เหมือนสัตว์ที่เด็กกว่า
โรค หัวใจ: ใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ และความสามารถในการทำลายคอเลสเตอรอล ทำให้ บลูเบอรี่ เป็นอาหารเสริมที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ มันยังทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงอีกด้วย ใน Journal of Agriculture and Food Chemistry นักวิจัยพบว่าไวน์ขาว 4 ออนซ์มีสารต้านอนุมูลอิสระ .47 mmol ไวน์แดงมี 2.04 mmol และไวน์จากบลูเบอรี่ 2.42 mmol ใ
อาการท้องผูก และอาหารไม่ย่อย: ใยอาหารในบลูเบอรี่ช่วยการขับถ่าย และวิตามิน โซเดียม คอปเปอร์ ฟรุกโตส และกรดช่วยในการย่อยอาหาร
มา เร็ง: บลูเบอรี่มีสาร Pterostilbene (ช่วยรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่และตับ) และกรด Ellagic ที่ทำงานคู่กับ Anthocyanin และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซี และคอปเปอร์ ในการป้องกันมะเร็ง ผลการวิจัยใยห้อง Lab ใน Journal of Agricultural and Food Chemistry ชี้ว่าบลูเบอรี่มีสารที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ ใหญ่ และช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งด้วย หญิงที่รับประทาน flavone luteolin จากไซตรัส (กรดจากผลไม้) มาก มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งรังไข่ลดลงถึง 34%
ประโยชน์อื่นๆ: บลูเบอรี่ทำให้รู้สึกสดชื่น และอารมณ์ดี มันเป็นอาหารที่แก้อาการซึมเศร้าได้ดีมาก
วิธี การเลือกบลูเบอรี่: เลือกบลูเบอรี่ที่แข็ว ตึง และสีสด ลองเขย่ากล่องใส่บลูเบอรี่ดูว่ามันแยกตัวออกจากกันดีหรือไม่ ถ้ามันติดกัน นั่นหมายความว่า บลูเบอรี่นั้นไม่สด หรืออาจขึ้นราแล้วก็ได้
ข้อมูลจาก: womenfitness.net